ธุรกิจร้านซักผ้าหยอดเหรียญ แฟรนไชส์ร้านซักผ้า ลงทุนอย่างไรให้คุ้มค่า?

แนะค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำแฟรนไชส์ร้านซักผ้า ลงทุนอย่างไร ใช้งบประมาณกับด้านไหนคุ้มค่ามากที่สุด?

แฟรนไชส์ร้านซักผ้า ลงทุนอย่างไรให้คุ้มค่า

เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเริ่มได้รับความนิยมในต่างประเทศ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 โดยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ให้ความสำคัญกับเวลา และสะดวกมากขึ้น ผู้คนต่างต้องการประหยัดเวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการซักผ้าด้วย ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ธุรกิจตู้ซักผ้าหยอดเหรียญสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ เป็นแฟรนไชส์ร้านซักผ้าไปเลย หรือเป็นธุรกิจในชื่อของตนเอง แน่นอนว่าบทความนี้ KP-Vending จะมากล่าวถึงการเปิดแฟรนไชส์ร้านซักผ้าเป็นหลัก โดยแนะแนวทางการลงทุนเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ สำหรับท่านใดที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจ บอกเลยว่าแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าจะเหมาะสมมาก ๆ

เปิดแฟรนไชส์ร้านซักผ้า ลงทุนไม่เยอะ พนักงานประจำก็ทำได้

สำหรับท่านใดที่สนใจลงทุนธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ การลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ร้านซักผ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ เช่น ไม่ต้องเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ต้น ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์แฟรนไชส์ ทั้งด้านการตลาด การฝึกอบรม และอุปกรณ์ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ รวมถึงมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่าลงทุนเอง แต่ทั้งนี้ในการลงทุนแฟรนไชส์ร้านซักผ้าก็ต้องมีเงินทุนในประมาณหนึ่ง ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้

  1. ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ร้านซักผ้า
    ขออธิบายก่อนว่าค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ร้านซักผ้า คือ ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายให้แก่เจ้าของแฟรนไชส์ โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 - 500,000 บาท ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ร้านซักผ้าจะมีอยู่สองประเภทด้วยกัน

    ประเภทแรกจะเป็นค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Initial Franchise Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายครั้งเดียวให้กับแฟรนไชส์ร้านซักผ้า เมื่อเริ่มต้นการลงทุน โดยค่าธรรมเนียมแรกเข้าจะครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าสิทธิในการใช้ชื่อ โลโก้ และเครื่องหมายการค้าของแบรนด์ รวมไปถึงค่าอบรมตัวคุณเอง

    ต่อมาก็จะเป็นค่าธรรมเนียมรายปี (Franchise Royalty Fee) เป็นค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายให้กับแฟรนไชส์ร้านซักผ้าเป็นประจำทุกปี โดยค่าธรรมเนียมรายปีจะครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าความช่วยเหลือด้านการตลาด ค่าปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์

    ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ร้านซักผ้า เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เงินก้อนในการลงทุน หน้าที่ของคุณก็ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายนี้ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

  2. ค่าอุปกรณ์ และเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
    ค่าอุปกรณ์ และเครื่องซักผ้า เป็นค่าใช้จ่ายที่คุณต้องแบ่งมาสักก้อนหนึ่ง ในการลงทุนเปิดแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน ประเภทของอุปกรณ์ และเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ รวมไปถึงแบรนด์ของอุปกรณ์ก็มีส่วนไม่น้อย ซึ่งอุปกรณ์ที่ทุกแฟรนไชส์ซักผ้าจะต้องมีคือ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ และอุปกรณ์เสริม เช่น เครื่องจ่ายน้ำยาซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้กระจก เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่า ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ และเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ เป็นอุปกรณ์หลักของร้านซักผ้าหยอดเหรียญ โดยเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมีให้เลือกหลายประเภท เช่น เครื่องซักผ้าฝาบน เครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องซักผ้าแบบถังคู่ อยู่ที่การจัดการของคุณว่าจะมีกี่เครื่อง หรือกี่รูปแบบ

  3. ค่าเช่าพื้นที่
    มาถึงค่าเช่าพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเปิดแฟรนไชส์ร้านซักผ้า หรือลงทุนอื่น ๆ ล้วนต้องมีค่าเช่าที่กันทั้งนั้น ยกเว้นคุณจะทำธุรกิจอยู่ที่บ้าน ซึ่งค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง ขนาดของพื้นที่ และสัญญาเช่า

    ทั้งนี้ทำเลที่ตั้งของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อยอดรายได้ของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านซักผ้า โดยทำเลที่ตั้งที่ดีควรอยู่ใกล้แหล่งชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น มีที่จอดรถสะดวก (รวมถึงรถจักรยานยนต์ เพราะหลายคนเลือกเดินทางด้วยจักรยานยนต์เวลาไปซักผ้า) รวมถึงเดินทางสะดวก

  4. ค่าน้ำ ค่าไฟ ต้องเตรียมเสมอ
    แน่นอนว่าค่าสาธารณูปโภคคุณต้องจ่ายในทุก ๆ เดือน ทั้งนี้ด้วยความที่คุณเป็นแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า อาจจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่มขึ้น ยิ่งคุณเปิด 24 ชั่วโมงด้วยแล้ว ยิ่งต้องคำนวณค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้ดี โดยคุณควรบริหารจัดการค่าสาธารณูปโภคอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ธุรกิจมาสะดุดล้มกับเรื่องนี้ โดยอาจจะคำนึงถึงปริมาณการใช้น้ำ และไฟฟ้า อัตราค่าสาธารณูปโภคในแต่ละเดือน เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณได้กำไรมากขึ้น

    ทั้งนี้ขอยกมีวิธีลดค่าสาธารณูปโภคที่จะช่วยให้คุณประหยัดได้ เช่น เลือกใช้เครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าที่ประหยัดพลังงาน ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำ และไฟฟ้า รวมไปถึงรณรงค์ให้ลูกค้าประหยัดน้ำ และไฟฟ้าด้วยการแปะแผ่นตามผนัง เป็นต้น

  5. เรียกลูกค้าด้วยการทำ ‘การตลาด’
    การตลาด และประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์ร้านซักผ้า เนื่องจากธุรกิจนี้มีคู่แข่งจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องทำการตลาด และประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ และดึงดูดลูกค้า เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ายบิลบอร์ด ป้ายโฆษณา ที่เป็นสื่อออฟไลน์ หรือจะออนไลน์อย่าง เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย เป็นต้น

สุดท้ายนี้ หากคุณตัดสินใจแล้วว่าอยากเปิดแฟรนไชส์เครื่องซักผ้า แฟรนไชส์ร้านซักผ้า ให้ KP-Vending เป็นคู่คิดคู่ค้าให้กับธุรกิจของคุณ เราคือศูนย์ค้าส่งเครื่องหยอดเหรียญยอดนิยมทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ สำหรับทำแฟรนไชส์ร้านซักผ้า แฟรนไชส์เครื่องซักผ้า ตู้ล้างรถหยอดเหรียญ ตู้อัดฉีดหยอดเหรียญ สำหรับแฟรนไชส์ล้างรถหยอดเหรียญ หรือตู้น้ำหยอดเหรียญ ราคาไม่ผ่านคนกลาง ได้ราคาคุ้มค่าแน่นอน เราคือที่หนึ่งด้านตู้หยอดเหรียญที่ทันสมัยที่สุด มั่นใจได้เลยในคุณภาพ ยินดีรับประกันสินค้า